tag:blogger.com,1999:blog-1788979180939369812024-02-20T19:34:35.424-08:00KingBhumibolพระราชกรณียกิจรัชกาลที่ 9http://www.blogger.com/profile/07721550725110473365noreply@blogger.comBlogger12125tag:blogger.com,1999:blog-178897918093936981.post-66860581782380950712009-08-23T09:00:00.000-07:002009-08-23T09:03:36.486-07:00<a href="http://www.youtube.com/watch?v=_I-BDvyTzco">http://www.youtube.com/watch?v=_I-BDvyTzco</a>พระราชกรณียกิจรัชกาลที่ 9http://www.blogger.com/profile/07721550725110473365noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-178897918093936981.post-57219329652169474952009-08-23T08:58:00.000-07:002009-08-23T08:59:57.440-07:00<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEge6XzkG6GnF3SIy6Dm7jyjTeAcnHWp3iJru2loau_2EwB9Q3C9ifi7-gLDCI9Lk6diQVSGnR17xi-UyHZxmusSa6a0FN9PRJ3gdalGvLvwHtYl3v56cQjT6yHgi4HjHnKA7THohISZTQQ/s1600-h/king4.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5373189581256908706" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 400px; CURSOR: hand; HEIGHT: 283px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEge6XzkG6GnF3SIy6Dm7jyjTeAcnHWp3iJru2loau_2EwB9Q3C9ifi7-gLDCI9Lk6diQVSGnR17xi-UyHZxmusSa6a0FN9PRJ3gdalGvLvwHtYl3v56cQjT6yHgi4HjHnKA7THohISZTQQ/s400/king4.jpg" border="0" /></a><br /><div></div>พระราชกรณียกิจรัชกาลที่ 9http://www.blogger.com/profile/07721550725110473365noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-178897918093936981.post-73333764519062531582009-08-19T03:42:00.002-07:002009-08-19T03:43:16.591-07:00พระราชกรณียกิจด้านศิลปะวัฒนธรรมทรงตั้งกรมมหรสพขึ้น เพื่อฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมไทย <br />ทรงตั้งโรงละครหลวงขึ้นเพื่อส่งเสริมการแสดงละครในหมู่ข้าราชบริพาร <br />ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ออกแบบอาคารสมัยใหม่เป็นแบบทรงไทย เช่น ตึกอักษรศาสตร์ ซึ่งเป็นอาคารเรียนหลังแรกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอาคารโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัยพระราชกรณียกิจรัชกาลที่ 9http://www.blogger.com/profile/07721550725110473365noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-178897918093936981.post-1481954018566554972009-08-19T03:42:00.001-07:002009-08-19T03:42:39.889-07:00พระราชกรณียกิจด้านศาสนาพระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานในการเปิดพระราชพิธีเนื่องในวโรกาสต่างๆอาทิเช่น พระราชพิธีบำเพ็ญการกุศล ทรงสนับสนุนให้มีการสร้างศาสนสถานพระราชกรณียกิจรัชกาลที่ 9http://www.blogger.com/profile/07721550725110473365noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-178897918093936981.post-2346763282709122432009-08-19T03:41:00.001-07:002009-08-19T03:41:53.134-07:00พระราชกรณียกิจด้านการกีฬาเรือใบเป็นกีฬาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเป็นพิเศษ พระองค์ทรงเป็นตัวแทนของประเทศไทยลงแข่งเรือใบในกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 9-16 ธันวาคม พ.ศ. 2510 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยทรงเข้าค่ายฝึกซ้อมตามโปรแกรมการฝึกซ้อม และทรงได้รับเบี้ยเลี้ยงในฐานะนักกีฬา เช่นเดียวกับนักกีฬาคนอื่น ๆ ในที่สุด ด้วยพระปรีชาสามารถ พระองค์ทรงชนะเลิศเหรียญทอง และทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเหรียญทอง จากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2510 ท่ามกลางความปลื้มปีติของพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ และเป็นที่ประจักษ์แก่ชนทั่วโลก ทำให้พระอัจฉริยภาพทางกีฬาเรือใบของพระองค์ที่ยอมรับกันทั่วโลก พระองค์ยังได้ทรงออกแบบและประดิษฐ์เรือใบยามว่างออกมาหลายรุ่น พระองค์พระราชทานนามเรือใบประเภทม็อธ (Moth) ที่ทรงสร้างขึ้นว่า เรือใบมด เรือใบซูเปอร์มด และ เรือใบไมโครมด ถึงแม้ว่าเรือใบลำสุดท้ายที่พระองค์ทรงต่อคือ เรือโม้ค (Moke) เมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2510 เรือใบซูเปอร์มดยังถูกใช้แข่งขันในระดับนานาชาติที่จัดในประเทศไทยหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายคือเมื่อ พ.ศ. 2528 ในกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 13<br /><br />นอกเหนือจากกีฬาเรือใบแล้ว ยังทรงเล่นกีฬาประเภทอื่น ๆ เช่น แบตมินตัน เทนนิส ยิงปืน เป็นต้นพระราชกรณียกิจรัชกาลที่ 9http://www.blogger.com/profile/07721550725110473365noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-178897918093936981.post-57699011834557109052009-08-19T03:39:00.000-07:002009-08-19T03:41:19.412-07:00พระราชกรณียกิจด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjpqTXgV7fVIT8mV821W9_ZpwY88Khl_R2HoXjrL3R96Gia82XIzSFPhEx3vVReO3x8-keZAyoxVuiKUz4rwolpkYTgRyrDzgJuQNglhhHc5kPo8UHquIO6hWYj-oqXG316X5PgmeEnkpI/s1600-h/416px-The_king_and_child.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;width: 400px; height: 267px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjpqTXgV7fVIT8mV821W9_ZpwY88Khl_R2HoXjrL3R96Gia82XIzSFPhEx3vVReO3x8-keZAyoxVuiKUz4rwolpkYTgRyrDzgJuQNglhhHc5kPo8UHquIO6hWYj-oqXG316X5PgmeEnkpI/s400/416px-The_king_and_child.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5371623088541480098" /></a><br />ในระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ถึง ๒๕๑๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศต่างๆ ทั้งในทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ รวม ๒๗ ประเทศ เพื่อเป็นการเจริญพระราชไมตรีกับบรรดามิตรประเทศเหล่านั้นให้มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเพื่อนำความปรารถนาดีของประชาชนชาวไทยไปมอบให้กับประชาชนในประเทศต่างๆ โดยรายชื่อประเทศต่างๆ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินเยือน มีตามลำดับดังนี้<br /><br />ประเทศเวียดนามใต้ ระหว่างวันที่ ๑๘ - ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๒ <br />สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ ๘ - ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๓ <br />สหภาพพม่า ระหว่างวันที่ ๒ - ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ <br />สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ ๑๔ มิถุนายน - ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ <br />ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ ๑๙ - ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ <br />สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม - ๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ <br />สาธารณรัฐโปรตุเกส ระหว่างวันที่ ๒๒ - ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ <br />ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ ๒๙ - ๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ <br />ประเทศเดนมาร์ก ระหว่างวันที่ ๖ - ๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๓ <br />ประเทศนอร์เวย์ ระหว่างวันที่ ๑๙ - ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๓ <br />ประเทศสวีเดน ระหว่างวันที่ ๒๓ - ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๓ <br />สาธารณรัฐอิตาลี ระหว่างวันที่ ๒๘ กันยายน - ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ <br />นครรัฐวาติกัน เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ <br />ประเทศเบลเยียม ระหว่างวันที่ ๔ - ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ <br />สาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ ๑๑ - ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ <br />ประเทศลักเซมเบิร์ก ระหว่างวันที่ ๑๗ ตุลาคม - ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ <br />ประเทศเนเธอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ ๒๔ - ๒๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ <br />ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ ๓ - ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๐๓ <br />สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน ระหว่างวันที่ ๑๑ - ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ <br />สหพันธรัฐมลายา ระหว่างวันที่ ๒๐ - ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๐๕ <br />ประเทศนิวซีแลนด์ ระหว่างวันที่ ๑๘ - ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ <br />ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ ๒๖ สิงหาคม - ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๕ <br />ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ ๒๗ พฤษภาคม - ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๐๖ <br />สาธารณรัฐจีน ระหว่างวันที่ ๕ - ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๐๖ <br />สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ ๙ - ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ <br />สาธารณรัฐออสเตรีย ระหว่างวันที่ ๒๙ กันยายน - ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๗ <br />สาธารณรัฐเยอรมัน ระหว่างวันที่ ๒๒ - ๒๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๙ (เป็นการเสด็จพระราชดำเนินเยือนครั้งที่สอง) <br />สาธารณรัฐออสเตรีย ระหว่างวันที่ ๒๙ กันยายน - ๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๙ (เป็นการเสด็จพระราชดำเนินเยือนครั้งที่สอง) <br />ประเทศอิหร่าน ระหว่างวันที่ ๒๓ - ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๐ <br />สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ ๖ มิถุนายน - ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๐ (เป็นการเสด็จพระราชดำเนินเยือนครั้งที่สอง) <br />ประเทศแคนาดา ระหว่างวันที่ ๒๑ - ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๐ <br />จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็มิได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศอีก เพราะทรงเห็นว่าพระราชภารกิจภายในประเทศนั้นมีมากมาย อย่างไรก็ตาม หากประมุขหรือรัฐบาลของประเทศใดกราบบังคมทูลเชิญให้เสด็จฯ ไปเยี่ยมเยือน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระราชโอรส หรือพระราชธิดา เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ เพื่อเจริญสัมพันธไมตรี รวมทั้งเพื่อทอดพระเนตรวิทยาการ และศิลปวัฒนธรรมของชาตินั้นๆ<br /><br />จนกระทั่งวันที่ ๘ - ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศลาว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ซึ่งนับเป็นการเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศอีกครั้ง หลังจากที่ว่างเว้นมาเป็นเวลานานกว่า ๓๐ ปี<br /><br />พระราชกรณียกิจด้านการต่างประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น รวมไปถึงการเสด็จพระราชดำเนินออกให้การต้อนรับราชอาคันตุกะจากประเทศต่างๆ ที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย ทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้บรรดาทูตานุทูตเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสาส์นตราตั้งในการเข้ามารับตำแหน่งในประเทศไทย และถวายบังคมทูลลาเมื่อครบวาระอีกด้วยพระราชกรณียกิจรัชกาลที่ 9http://www.blogger.com/profile/07721550725110473365noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-178897918093936981.post-16688771259628134572009-08-19T03:38:00.001-07:002009-08-19T03:39:38.413-07:00พระราชกรณียกิจด้านการเกษตรและการยกระดับสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhGEXqEut4EylsS9w4z0GNqoqk1mlPDPPwimt3zrXoBAfu-b-I-uuysE9hVn7K6MYzF4Ynw-Pv7RI4GnMW-NBsXz6WGS2N0BVkh-wXOp7bMUJ9QiUwEEfXdzNQt8Xan-sc72xEsQUB0cjk/s1600-h/416px-The_king_and_child.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;width: 277px; height: 400px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhGEXqEut4EylsS9w4z0GNqoqk1mlPDPPwimt3zrXoBAfu-b-I-uuysE9hVn7K6MYzF4Ynw-Pv7RI4GnMW-NBsXz6WGS2N0BVkh-wXOp7bMUJ9QiUwEEfXdzNQt8Xan-sc72xEsQUB0cjk/s400/416px-The_king_and_child.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5371622530269521410" /></a><br /> การเกษตรนั้นถือได้ว่าเป็นทั้งรากฐานและชีวิตสำหรับประเทศของเรา เพราะคนไทยเราส่วนใหญ่เป็นผู้มีอาชีพทางเกษตรกรรม. ข้าพเจ้าจึงมีความเห็นเสมอมาว่า วิธีการพัฒนาที่เหมาะสมแก่ประเทศเราอย่างยิ่ง ก็คือจะต้องทำนุบำรุงเกษตรกรรมทุกสาขาให้พัฒนาก้าวหน้า เพื่อยกระดับฐานะความเป็นอยู่ของเกษตรกรทุกระดับให้สูงขึ้น<br /><br />ด้านการเกษตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสนใจด้านนี้ พระองค์ได้เสด็จเยี่ยม ไต่ถามความทุกข์สุขของประชาชน และรับฟังข้อปัญหาเกิดเป็นโครงการตามพระราชดำริต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการชลประทาน การพัฒนาดิน การวิจัยพันธุ์พืชและปศุสัตว์ เป็นต้นพระราชกรณียกิจรัชกาลที่ 9http://www.blogger.com/profile/07721550725110473365noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-178897918093936981.post-88593238253785428242009-08-17T02:44:00.000-07:002009-08-19T03:36:29.547-07:00พระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg0lDGK8rloweySqY63RdvqeyZVunk8R41OYNovo87THrk_nu2IqZ88GRTQB6Pha_WkUSUmWHfc7trSpOE8r9LxnQHCpgp04Xe8iXi6MdT6SWHnLZPzBLhH5RjR9oFUlEyyVeharnnmTv0/s1600-h/238_2.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;width: 369px; height: 254px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg0lDGK8rloweySqY63RdvqeyZVunk8R41OYNovo87THrk_nu2IqZ88GRTQB6Pha_WkUSUmWHfc7trSpOE8r9LxnQHCpgp04Xe8iXi6MdT6SWHnLZPzBLhH5RjR9oFUlEyyVeharnnmTv0/s400/238_2.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5370867614279028290" /></a><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjrSqGjs-KQ4tRwAro3thozAeq9MMeQDSdtElXQ0Y1LUedoAdsWjnCBYZ3Fu_pP1fDCHaYJmkhoMuvMzMdMtbNf28vDZqg4c-pa6jtGECXbPKSpNHW4QsYgZ7SAR4wNtjmjbhPpSNKqSGE/s1600-h/238_1.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;width: 369px; height: 254px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjrSqGjs-KQ4tRwAro3thozAeq9MMeQDSdtElXQ0Y1LUedoAdsWjnCBYZ3Fu_pP1fDCHaYJmkhoMuvMzMdMtbNf28vDZqg4c-pa6jtGECXbPKSpNHW4QsYgZ7SAR4wNtjmjbhPpSNKqSGE/s400/238_1.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5370867377336815522" /></a><br />ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาที่มีความสำคัญที่มักจะเกิดควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจและความเจริญก้าวหน้า ซึ่งเป็นปัญหาร่วมกันของทุกประเทศ กล่าวคือ การพัฒนายิ่งรุดหน้าปัญหาคุณภาพสิ่งแวดล้อมและภาวะมลพิษก็ยิ่งก่อตัวและทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ประเทศไทยก็เป็นประเทศหนึ่งที่กำลังประสบกับปัญหาดังกล่าวอยู่ในขณะนี้ ทั้งนี้เพราะการพัฒนาเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาได้ให้ความสำคัญกับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยการนำเอาทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ แต่ไม่ได้มีการวางแผนการจัดการที่เหมาะสมรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้น ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติที่เหลืออยู่มีสภาพเสื่อมโทรมลง และปัญหาต่างๆ ด้านสิ่งแวดล้อมก็เพิ่มขึ้น ปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนและระบบนิเวศ จึงทรงให้มีการดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวิธีการที่จะทำนุบำรุงและปรับปรุงสภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดีขึ้นในด้านต่าง ๆ โดยในด้านการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมนั้น ทรงเน้นงานการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของปัญหาน้ำเน่าเสีย พระราชดำริ พระราชกรณียกิจ และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญได้แก่ หลักการ "น้ำดีไล่น้ำเสีย" หลักการบัดน้ำเสียด้วยผักตบชวา ทฤษฎีการบำบัดน้ำเสียด้วยการผสมผสานระหว่างพืชน้ำกับระบบการเติมอากาศ ทฤษฎีการบำบัดน้ำเสียด้วยระบบบ่อบำบัดและวัชพืชบำบัด และ "กังหันน้ำชัยพัฒนา" ซึ่งมีสาระโดยสรุปดังนี้คือ <br /><br />๑) ทฤษฎี "น้ำดีไล่น้ำเสีย" ได้ทรงนำหลักการบำบัดน้ำเสียโดยการทำให้เจือจางตามแนวทฤษฎีการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ "น้ำดีไล่น้ำเสีย" โดยใช้หลักการตามธรรมชาติแห่งแรงโน้มถ่วงของโลก เป็นการใช้น้ำคุณภาพดีมาช่วยบรรเทาน้ำเน่าเสีย ดังพระราชดำรัสเกี่ยวกับการใช้พื้นที่ในอำเภอธัญบุรี เมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ <br /><br />"…แต่ ๓,๐๐๐ ไร่นั่นมันอยู่สูง จะนำน้ำโสโครกจากที่นี่ไปที่โน้นต้องสูบไปไม่ไหว แต่ว่าจะทำเป็นบึงใหญ่ที่จะเก็บน้ำได้สำหรับเวลาหน้าน้ำมีน้ำเก็บเอาไว้ หน้าแล้งก็ปล่อยลงมา ส่วนหนึ่งอาจปล่อยลงมาสำหรับล้างกรุงเทพ ได้เจือจางน้ำโสโครกในคลองต่างๆ…" (สำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม, ๒๕๓๔: ๓๑-๒) <br /><br />อีกทั้งได้พระราชทานแนวพระราชดำริโดยรับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งเข้าไปตามคลองต่างๆ เช่น คลองบางเขน คลองบางซื่อ คลองแสนแสบ คลองเทเวศร์ และคลองบางลำภู เป็นต้น โดยกระแสน้ำจะไหลแผ่กระจายขยายไปตามคลองซอยที่เชื่อมกับแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้านหนึ่ง ดังนั้นเมื่อทำการปล่อยน้ำให้ไหลเวียนจากปากคลองไปปลายคลองได้อย่างเหมาะสม ก็ย่อมจะช่วยเจือจางน้ำเน่าเสียได้มากโดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง (สำนักงาน กปร., ๒๕๔๐: ๑๐๑) <br /><br />๒) การบำบัดน้ำเสียด้วยผักตบชวา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัยในการปรับปรุงคุณภาพของแหล่งน้ำที่มีอยู่แล้ว เช่น บึงและหนองต่างๆ เพื่อทำเป็นแหล่งบำบัดน้ำเสีย โดยหนึ่งในจำนวนนั้นได้แก่ โครงการบึงมักกะสันอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีหลักการบำบัดน้ำเสีย ตามแนวทฤษฎีการพัฒนาโดยการกรองน้ำเสียด้วยผักตบชวา <br /><br />๓) การบำบัดน้ำเสียด้วยการผสมผสานระหว่างพืชน้ำกับระบบเติมอากาศ ด้วยทรงห่วงใยในปัญหาน้ำเน่าเสียที่เกิดขึ้นในหนองหนองหาน จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นแหล่งรับน้ำเสียจากครัวเรือนในเขตเทศบาลเมืองสกลนคร ที่มีสภาพเกินขีดความสามารถในการรองรับของเสีย พระบาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระราชทานแนวพระราชดำริ ทฤษฎีการบำบัดน้ำเสียด้วยการผสมผสานระหว่างพืชน้ำกับระบบการเติมอากาศ ณ บริเวณหนองสนม-หนองหาน จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างวิธีธรรมชาติกับเทคโนโลยีแบบประหยัด โดยมีกรมประมงร่วมกับกรมชลประทานดำเนินการศึกษาและก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียในบริเวณดังกล่าว โดยมีระบบบำบัดด้วยพืชน้ำซึ่งเป็นวิธีการบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีธรรมชาติในพื้นที่ ๘๔.๕ ไร่ และได้มีการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๗ (สำนักงานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ, ๒๕๓๙: ๒๒๒) <br /><br />๔) การบำบัดน้ำเสียด้วยระบบบ่อบำบัดและวัชพืชบำบัด โครงการวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลแหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตระหนักถึงปัญหาภาวะมลพิษที่มีผลต่อการดำรงชีพของประชาชน อันเนื่องมาจากชุมชนเมืองต่างๆ ยังขาดระบบบำบัดน้ำเสียและการกำจัดขยะมูลฝอยที่ดีและมีประสิทธิภาพ จึงทรงให้มีการดำเนินการตามโครงการดังกล่าวขึ้นในพื้นที่ ๑,๑๓๕ ไร่ โดยเป็นโครงการศึกษาวิจัยวิธีการบำบัดน้ำเสีย กำจัดขยะมูลฝอยและการรักษาสภาพป่าชายเลนด้วยวิธีธรรมชาติ <br />๕) กังหันน้ำชัยพัฒนา ในปัจจุบัน สภาพมลภาวะทางน้ำมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องกลเติมอากาศเพิ่มออกซิเจนเพื่อการบำบัดน้ำเสีย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัยเกี่ยวกับอุปกรณ์การเติมอากาศ และทรงค้นคิดทฤษฎีบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีการเติมอากาศ โดยใช้วิธีทำให้อากาศสามารถละลายลงไปในน้ำเพื่อเร่งการเจริญเติบโตและการเพาะตัวอย่างรวดเร็วของแบคทีเรียจนมีจำนวนมากพอที่จะทำลายสิ่งสกปรกในน้ำให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว ตามแนวทฤษฎีการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ "กังหันน้ำชัยพัฒนา" ซึ่งเป็นรูปแบบสิ่งประดิษฐ์ที่เรียบง่าย ประหยัด เพื่อใช้ในการบำบัดน้ำเสียที่เกิดจากแหล่งชุมชนและแหล่งอุตสาหกรรม และได้มีการนำไปใช้งานทั่วประเทศ (สำนักงานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ, ๒๕๓๙: ๒๑๘-๙) <br />๖) การกำจัดน้ำเสียโดยวิธีธรรมชาติ ทรงมีพระราชดำริให้ทำการศึกษา ทดลองวิจัยดูว่า จะใช้ปลาบางชนิดกำจัดน้ำเสียได้หรือไม่ ปลาเหล่านี้น่าจะเข้าไปกินสารอินทรีย์ในบริเวณแหล่งน้ำเสีย ซึ่งปรากฎว่าปลาบางสกุลมีอวัยวะพิเศษในการหายใจ เช่น ปลากระดี่ ปลาสลิด เหมาะแก่การเลี้ยงในน้ำเสีย และชอบกินสารอินทรีย์ จึงช่วยลดมลภาวะในแหล่งน้ำ วิธีการนี้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการกำจัดน้ำเสียได้ ซึ่งจะมีต้นทุนต่ำ และสามารถเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำได้อีกทางหนึ่ง (สำนักงาน กปร., ๒๕๓๑: ๕๒) <br /><br />ด้วยพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (The Food and Agriculture Organization : FAO) ได้ทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญสดุดีพระเกียรติคุณในด้านการพัฒนาการเกษตร (Agricola Medal) แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ ในฐานะที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอุทิศพระองค์ เพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทยโดยเฉพาะผู้ซึ่งประกอบอาชีพเพาะปลูก บำรุงรักษาน้ำ และบำรุงรักษาป่า ซึ่งทรงยึดหลัก "สนับสนุนการพัฒนาแบบยั่งยืนเพื่อความมั่นคงในอนาคต" เป็นหลักปฏิบัติ เพื่อให้ประจักษ์ชัดเจนจากความสำเร็จในด้านการพัฒนา โดยองค์การฯ สดุดีพระองค์ว่า ทรงพระปรีชาสามารถเกี่ยวกับความยุติธรรมของสังคม ซึ่งได้ปรากฏเห็นเป็นตัวอย่างจากนโยบายเรื่องการแบ่งที่ดินทำกินเพื่อเกษตรกรและผู้ทำนุบำรุงรักษาป่า ทรงวิริยะอุตสาหะในเรื่องการกักเก็บน้ำให้เพียงพอเพื่อประกันผลผลิตอาหาร การอนุรักษ์สันปันน้ำและป้องกันการกัดเซาะผิวดิน ทรงสนับสนุนเผยแพร่การเกษตรสมบูรณ์ ซึ่งรวบรวมแหล่งน้ำเพื่อการเพาะปลูก และขยายพันธุ์สัตว์ให้เจริญเติบโตขึ้น ตลอดจนการบำรุงผิวดิน ทรงมีพระอุตสาหะอันสูงส่งในการสงวนรักษาพันธุ์พืช ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อมนุษยชาติในการค้นคว้าเรื่องอาหาร ทั้งนี้ เนื่องจากทรงมีสายพระเนตรอันกว้างไกลในการที่จะทำให้โลกปราศจากความหิวโหย และประชาชนมีอาหารเพียงพอต่อการดำรงชีวิตพระราชกรณียกิจรัชกาลที่ 9http://www.blogger.com/profile/07721550725110473365noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-178897918093936981.post-78360827202345925602009-08-16T21:42:00.002-07:002009-08-19T03:34:15.622-07:00พระราชกรณียกิจด้านการศึกษา<strong><strong><strong><strong><strong>พระราชกรณียกิจด้านการศึกษา</strong></strong></strong></strong></strong><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhYWbXqFdg_k8lduCok0LTz5YeZS84OecMQ4NleBtfdhYc3_UO7d3hJWIOlrKa4Bov_3C6ab0It-4Ith6s7GUsMcXupHE-0e29TvvwDpLlNyD_4kQSGp8cI-4Pt4bcfR5f3RGt_nGxKeeQ/s1600-h/362px-The_king_and_educational_activity.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;width: 241px; height: 400px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhYWbXqFdg_k8lduCok0LTz5YeZS84OecMQ4NleBtfdhYc3_UO7d3hJWIOlrKa4Bov_3C6ab0It-4Ith6s7GUsMcXupHE-0e29TvvwDpLlNyD_4kQSGp8cI-4Pt4bcfR5f3RGt_nGxKeeQ/s400/362px-The_king_and_educational_activity.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5370788854853436018" /></a><br /><br />พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตระหนักดีว่าการศึกษาของเยาวชนนั้นเป็นพื้นฐานอันสำคัญของประเทศชาติ ดังพระราชดำรัสที่ว่า<br /> การศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างและพัฒนาความรู้ ความคิด ความประพฤติ และคุณธรรมของบุคคล หากสังคมและบ้านเมืองใดให้การศึกษาที่ดีแก่เยาวชนได้อย่างครบถ้วนในทุกๆ ด้านแล้ว สังคมและบ้านเมืองนั้นก็จะมีพลเมืองที่มีคุณภาพ สามารถดำรงรักษาความเจริญมั่นคงของประเทศชาติไว้ และพัฒนาก้าวหน้าต่อไปโดยตลอด [4] <br /> <br /><br />พระองค์จึงทรงมีพระราชดำริริเริ่มโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ดังนี้ <br /><br />[แก้] โรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์<br />โรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์เป็นโรงเรียนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้การอุปถัมป์ในด้านต่างๆ เช่น ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ รวมทั้งเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมเยียนและพระราชทานพระบรมราโชวาทเพื่อสนับสนุนและเป็นกำลังใจแก่ครูและนักเรียนของโรงเรียน โรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์มีทั้งโรงเรียนรัฐบาลและโรงเรียนเอกชน ดังนี้<br /><br />โรงเรียนจิตรลดา <br />โรงเรียนราชวินิต <br />โรงเรียนวังไกลกังวล <br />โรงเรียนราชประชาสมาสัย <br />โรงเรียน ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ <br />โรงเรียนเพื่อลูกหลานชนบท <br />โรงเรียนร่มเกล้า <br />โรงเรียนสงเคราะห์เด็กยากจน <br />โรงเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือตามความจำเป็นเร่งด่วน <br /><br />[แก้] ทุนการศึกษาพระราชทาน<br />พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบดีว่าเด็กและเยาวชนของไทยมิได้ขาดสติปัญญา หากแต่ด้อยโอกาสและขาดทุนทรัพย์สำหรับการศึกษา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อก่อตั้งกองทุนการศึกษาหลายขั้นหลายทุน ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษาพระราชกรณียกิจรัชกาลที่ 9http://www.blogger.com/profile/07721550725110473365noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-178897918093936981.post-19551608879360143472009-08-16T21:42:00.001-07:002009-08-19T03:35:50.919-07:00พระราชกรณียกิจรัชกาลที่ 9http://www.blogger.com/profile/07721550725110473365noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-178897918093936981.post-23577941958699673862009-08-16T21:35:00.000-07:002009-08-19T03:35:18.286-07:00พระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุข<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi0PtTo9PLzXjgnPUhTaRNi0axeIiZOvaZIIXRJdIaff7H6eJoPYrjTyxAKkOIPbJsSqnUnpFjXRiXbtOM3PP5FhM6rrOeAaDdKHAyN2twMHE-2l1pL8rAt8ReVUodY3K0hbSQh8gsqxI8/s1600-h/%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B7%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2599.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;width: 400px; height: 312px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi0PtTo9PLzXjgnPUhTaRNi0axeIiZOvaZIIXRJdIaff7H6eJoPYrjTyxAKkOIPbJsSqnUnpFjXRiXbtOM3PP5FhM6rrOeAaDdKHAyN2twMHE-2l1pL8rAt8ReVUodY3K0hbSQh8gsqxI8/s400/%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B7%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2599.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5370787233129886098" /></a><br /><br />พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีความห่วงใยประชาชนชาวไทยในทุกด้าน โดยเฉพาะในด้านสุขภาพอนามัย ซึ่งพระองค์ทรงถือว่าปัญหาด้านสุขภาพอนามัยของประชาชนนั้น เป็นปัญหาสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไข ดังพระราชดำรัสที่ว่า ถ้าคนเรามีสุขภาพเสื่อมโทรม ก็จะไม่สามารถพัฒนาชาติได้ เพราะทรัพยากรที่สำคัญของประเทศชาติ ก็คือพลเมืองนั่นเอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นห่วง และเอื้ออาทรต่อทุกข์สุขของพสกนิกรอย่างจริงจัง โดยเฉพาะความทุกข์ของไพร่ฟ้าจากพยาธิภัย ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรตามท้องที่ต่างๆ ทุกครั้ง พระองค์จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีคณะแพทย์ ทั้งแพทย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาจากโรงพยาบาลต่างๆ และแพทย์อาสาสมัคร โดยเสด็จพระราชดำเนินไปในขบวนอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะได้รักษาผู้ป่วยไข้ได้ทันที นอกเหนือจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังได้ริเริ่มหลายโครงการด้านการแพทย์และสาธารณสุข ดังนี้<br /><br />โครงการหน่วยแพทย์พระราชทาน <br />โครงการแพทย์หลวงเคลื่อนที่พระราชทาน <br />โครงการแพทย์พิเศษตามพระราชประสงค์ <br />หน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่พระราชทาน <br />โครงการศัลยแพทย์อาสาราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย <br />โครงการแพทย์ หู คอ จมูก และโรคภูมิแพ้พระราชทาน <br />โครงการอบรมหมอหมู่บ้านในพระราชประสงค์ <br />หน่วยงานฝ่ายคนไข้ ในกองราชเลขานุการ สมเด็จพระบรมราชินีนพระราชกรณียกิจรัชกาลที่ 9http://www.blogger.com/profile/07721550725110473365noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-178897918093936981.post-10619998119234200412009-08-09T20:54:00.000-07:002009-08-16T21:26:15.999-07:00พระราชกรณียกิจ<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjCEUjF8kpLXg9uxVvddMesUDbVLOz5VvbnGcMvCNsWxJBYm6JAbPZkXYPpxKFzm5j2zBePChb5SmO0NxmEDyBygXnux2RuDRCnfLDf2R2mPiGF2b2OI-WUzhSUT7aCp1XeNxwngUoD9P0/s1600-h/The_king_%2528main%2529.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5368179923891505730" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 294px; CURSOR: hand; HEIGHT: 350px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjCEUjF8kpLXg9uxVvddMesUDbVLOz5VvbnGcMvCNsWxJBYm6JAbPZkXYPpxKFzm5j2zBePChb5SmO0NxmEDyBygXnux2RuDRCnfLDf2R2mPiGF2b2OI-WUzhSUT7aCp1XeNxwngUoD9P0/s400/The_king_%2528main%2529.jpg" border="0" /></a><br /><div><p></p><p><a class="mw-redirect" title="พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช" href="http://www.blogger.com/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7_%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B8%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%8A"><strong><span style="color:#ff9900;">พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช</span></strong></a><strong><span style="color:#ff9900;"> เสด็จขึ้นสืบราชสันตติวงศ์ต่อจาก</span></strong><a class="mw-redirect" title="พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล" href="http://www.blogger.com/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A5"><strong><span style="color:#ff9900;">สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช</span></strong></a><strong><span style="color:#ff9900;"> เป็น</span></strong><a title="พระมหากษัตริย์" href="http://www.blogger.com/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B9%8C"><strong><span style="color:#ff9900;">พระมหากษัตริย์</span></strong></a><strong><span style="color:#ff9900;">ลำดับที่ ๙ แห่ง</span></strong><a title="ราชวงศ์จักรี" href="http://www.blogger.com/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B5"><strong><span style="color:#ff9900;">บรมราชจักรีวงศ์</span></strong></a><strong><span style="color:#ff9900;"> เมื่อวันที่ </span></strong><a title="9 มิถุนายน" href="http://www.blogger.com/wiki/9_%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%96%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%99"><strong><span style="color:#ff9900;">๙ มิถุนายน</span></strong></a><strong><span style="color:#ff9900;"> </span></strong><a title="พ.ศ. 2489" href="http://www.blogger.com/wiki/%E0%B8%9E.%E0%B8%A8._2489"><strong><span style="color:#ff9900;">พ.ศ. ๒๔๘๙</span></strong></a><strong><span style="color:#ff9900;"> จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เป็นเวลา ๖๐ ปีที่พระองค์ทรงดำรงฐานะเป็นพระประมุขของชาติ เป็นระยะเวลาการครองราชย์ที่ยาวนานกว่ามหาราชาองค์ใดในโลกและบูรพกษัตริย์องค์ใดในแดนสยาม และเป็นเวลา ๖๐ ปีนี้เอง ที่พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกาย พระสติปัญญาความสามารถ และพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอยู่เป็นนิจนานัปการ ด้วยหวังให้มหาชนชาวสยามถึงพร้อมด้วยประโยชน์สุข ซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์ทรงตั้งพระราชหฤทัยไว้ตั้งแต่สมัยเมื่อเสด็จขึ้นเถลิ งถวัลยราชสมบัติ ดัง</span></strong><a class="new" title="พระปฐมบรมราชโองการ (หน้านี้ไม่มี)" href="http://www.blogger.com/w/index.php?title=%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3&action=edit&redlink=1"><strong><span style="color:#ff9900;">พระปฐมบรมราชโองการ</span></strong></a><strong><span style="color:#ff9900;">ที่ได้พระราชทานแก่พสกนิกรชาวไทยเมื่อครั้ง</span></strong><a class="new" title="พระราชพิธีบรมราชาภิเษก (หน้านี้ไม่มี)" href="http://www.blogger.com/w/index.php?title=%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A9%E0%B8%81&action=edit&redlink=1"><strong><span style="color:#ff9900;">พระราชพิธีบรมราชาภิเษก</span></strong></a><strong><span style="color:#ff9900;"> วันที่ </span></strong><a title="5 พฤษภาคม" href="http://www.blogger.com/wiki/5_%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1"><strong><span style="color:#ff9900;">๕ พฤษภาคม</span></strong></a><strong><span style="color:#ff9900;"> </span></strong><a title="พ.ศ. 2493" href="http://www.blogger.com/wiki/%E0%B8%9E.%E0%B8%A8._2493"><strong><span style="color:#ff9900;">พ.ศ. ๒๔๙๓</span></strong></a><strong><span style="color:#ff9900;"> ว่า <i>เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแก่มหาชนชาวสยาม</i></span></strong></p><br /><br /><p><strong><span style="color:#ff9900;">พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดพระองค์หนึ่งของโลก พระราชกรณียกิจของพระองค์มีมากมาย ทั้งในด้านการอนุรักษ์ฟื้นฟู</span></strong><a class="new" title="ทรัพยากรธรรมชาติ (หน้านี้ไม่มี)" href="http://www.blogger.com/w/index.php?title=%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4&action=edit&redlink=1"><strong><span style="color:#ff9900;">ทรัพยากรธรรมชาติ</span></strong></a><strong><span style="color:#ff9900;">และ</span></strong><a title="สิ่งแวดล้อม" href="http://www.blogger.com/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1"><strong><span style="color:#ff9900;">สิ่งแวดล้อม</span></strong></a><strong><span style="color:#ff9900;"> ด้าน</span></strong><a class="mw-redirect" title="การแพทย์" href="http://www.blogger.com/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C"><strong><span style="color:#ff9900;">การแพทย์</span></strong></a><strong><span style="color:#ff9900;">และ</span></strong><a title="สาธารณสุข" href="http://www.blogger.com/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82"><strong><span style="color:#ff9900;">สาธารณสุข</span></strong></a><strong><span style="color:#ff9900;"> ด้าน</span></strong><a class="new" title="การศึกษา (หน้านี้ไม่มี)" href="http://www.blogger.com/w/index.php?title=%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2&action=edit&redlink=1"><strong><span style="color:#ff9900;">การศึกษา</span></strong></a><strong><span style="color:#ff9900;"> ด้าน</span></strong><a title="ศาสนา" href="http://www.blogger.com/wiki/%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2"><strong><span style="color:#ff9900;">ศาสนา</span></strong></a><strong><span style="color:#ff9900;"> ด้าน</span></strong><a class="new" title="ความมั่นคงภายในประเทศ (หน้านี้ไม่มี)" href="http://www.blogger.com/w/index.php?title=%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%87%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8&action=edit&redlink=1"><strong><span style="color:#ff9900;">ความมั่นคงภายในประเทศ</span></strong></a><strong><span style="color:#ff9900;"> ด้าน</span></strong><a title="ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ" href="http://www.blogger.com/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8"><strong><span style="color:#ff9900;">ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ</span></strong></a><strong><span style="color:#ff9900;"> ด้าน</span></strong><a class="new" title="ศิลปะวัฒนธรรม (หน้านี้ไม่มี)" href="http://www.blogger.com/w/index.php?title=%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1&action=edit&redlink=1"><strong><span style="color:#ff9900;">ศิลปะวัฒนธรรม</span></strong></a><strong><span style="color:#ff9900;"> และด้าน</span></strong><a class="mw-redirect" title="การกีฬา" href="http://www.blogger.com/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%AC%E0%B8%B2"><strong><span style="color:#ff9900;">การกีฬา</span></strong></a><strong><span style="color:#ff9900;"> แต่พระราชกรณียกิจหลักของพระองค์คือ <i>การยกระดับสภาพความเป็นอยู่ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน</i> โดยพระองค์จะเสด็จพระราชดำเนินไปยังท้องที่ต่างๆ พร้อมทอดพระเนตรสภาพปัญหาในท้องที่เหล่านั้นด้วยพระองค์เอง พระองค์จะใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละปี เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ </span></strong><a class="mw-redirect" title="พระตำหนัก" href="http://www.blogger.com/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81"><strong><span style="color:#ff9900;">พระตำหนัก</span></strong></a><strong><span style="color:#ff9900;">ตามภูมิภาคต่างๆ และจะทรงหาโอกาสเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่ใกล้เคียงอยู่เสมอ จนอาจกล่าวได้ว่า <i>ไม่มีพื้นที่แห่งใดในประเทศไทย ที่พระองค์ไม่เคยเสด็จพระราชดำเนินไปถึง</i></span></strong></p><br /><br /><p><strong><span style="color:#ff9900;">ตลอด ๖๐ ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่พระองค์ทรงงานอย่างไม่เคยว่างเว้น และทรงประกอบพระราชกรณียกิจที่ถึงพร้อมทั้งความบริสุทธิ์บริบูรณ์ จึงเป็นช่วงเวลา ๖๐ ปีที่พสกนิกรชาวไทยอยู่ได้อย่างร่มเย็นเป็นสุขภายใต้ร่มพระบารมี พระราชกรณียกิจทั้งหลายที่พระองค์ทรงบำเพ็ญ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ที่พระองค์ทรงมีต่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทย</span></strong></p></div>พระราชกรณียกิจรัชกาลที่ 9http://www.blogger.com/profile/07721550725110473365noreply@blogger.com0